เครื่องดูดไรฝุ่นเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากสำหรับผู้ที่ต้องการรักษาความสะอาดในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ เพราะไรฝุ่นเป็นสาเหตุหลักของอาการแพ้หลายชนิด การเลือกซื้อเครื่องดูดไรฝุ่นที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจ
1.กำลังดูด: PA (Pascal): เป็นหน่วยวัดแรงดูด ยิ่งค่าสูง ยิ่งดูดฝุ่นได้ละเอียดและลึก
เลือกอย่างไร: ควรเลือกเครื่องที่มีแรงดูด 10,000 PA ขึ้นไป เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถดูดไรฝุ่นที่ซ่อนอยู่ในที่นอน หมอน และเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างหมดจด
2.ระบบกรอง
HEPA filter: เป็นแผ่นกรองที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กได้เกือบทั้งหมด
ระบบกรองอื่นๆ: บางรุ่นอาจมีระบบกรองเพิ่มเติม เช่น ถ่านกัมมันต์ เพื่อดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์
3 มอเตอร์ เป็นส่วนสำคัญของเครื่องดูดไรฝุ่นถ้ายิ่งมอเตอร์มีกำลังwเยอะก็จะดูดได้แรงขึ้นแต่ก็ต้องแลกมากับเสียงที่ดังมากยิ่งขึ้นถ้าคุณอยู่อาศัยในคอนโดก็ควรเลือกตัวที่มีเสียงน้อย
4 ฟังก์ชันเสริม ซึ่งในบางรุ่นนั้นจะมี แสง UVC ช่วยฆ่าเชื้อโรคเสมือนได้รับแสงแดด มีระบบลดความชื้นได้ด้วยระบบลมร้อน ระบบ Ultrasonic ที่ช่วยหยุดการเติบโตของไรฝุ่นที่ฝังลึก
5วัสดุ เนี่ยก็เป็นส่วนสำคัญถ้าวัสดุไม่ดีเครื่องก็จะไม่ทนทาน งานประกอบก็ควรจะเรียบร้อยไม่งั้นเครื่องก็จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
น้ำหนักและขนาด:มาในส่วนนี้ถ้าเครื่องมีน้ำหนักมากหรือเครื่องไม่มีอุปกรณ์ช่วยก็จะทำให้เราต้องใช้แรงมากขึ้นแต่ถ้ามีอุปกรณ์ช่วยเช่นล้อเคลื่อนที่ก็จะทำให้เราสนุกไปกับการใช้มากยิ่งขึ้น
6 เสียงของเครื่อง อันนี้น่าจะเป็นประเด็นหลักๆๆของคนที่อยู่ในคอนโดเลยก็ว่าได้ถ้าใช้เครื่องที่มีเสียงดังมากเกินไปก็จะทำให้รบกวนผู้อื่นห้องข้างๆๆได้ เราควรเลือกตัวที่มีเสียงที่ต่ำลงมาหรือไม่ก็ควรทำความสะอาดช่วงกลางวัน
วันนี้ทางisuperเลยอยากจะมาแนะนำเครื่องดูดไรฝุ่น
1 iSuper Anti Mites Vacuum Twin-Brush T1
เริ่มต้นตัวแรกคือตัว top ของเราเลย เป็นแบบหัวแปรงคู่ Twin-Brush ช่วยตบ และดูดไรฝุ่นได้มากกว่าที่เคย มั่นใจมากขึ้นด้วย Ultrasonic ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่น มอเตอร์ 500W ทำให้แรงดูดสูงถึง 15000Pa ดูดไรฝุ่นฝังแน่นออกมาได้อย่างหมดจด หน้าจอแสดงผลการทำงานของแต่ละฟังก์ชัน เพื่อความสะดวก ในการทำความสะอาด
ไส้กรอง Polymer polyester sponge filter element ดักจับไรฝุ่นได้อย่างดีเยี่ยม ถังเก็บฝุ่นแบบ Dual Tank 450 ml แยกไรฝุ่น และฝุ่นออกจากไส้กรองได้ดีเยี่ยม เสริมการทำงานให้เคลื่อนที่ได้สะดวกด้วยล้อคู่ ไม่เปลืองแรง ดูดไรฝุ่นทั้งบ้านก็ยังไหว วัสดุทำจากพลาสติก ABS ทนแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี ใช้งานได้ยาวนานกว่า เสียงการทำงานเบาเพียง 80dB ไม่รบกวนคนรอบข้าง ใช้งานที่คอนโด และหอพักได้สบาย สายไฟยาว 5 เมตร เหมาะสำหรับบ้านที่มีช่องให้เสียบปลั๊กไฟน้อย ตัวผลิตภัณฑ์สินค้ารับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ในราคา 3490 บาท
2.iSuper Anti Mites Vacuum Cleaner H1 Max
เครื่องดูดไรฝุ่นสามารถตบฝุ่นได้ถึง 36,000 ครั้ง/นาที แรงดูดได้สูงถึง 15,000Pa ดูดไรฝุ่นที่อยู่ในส่วนลึกของที่นอนได้แบบสบายๆ หน้าจอการแสดงผล LED แสดงปริมาณฝุ่น และสถานะการทำงาน เทคโนโลยีคลื่น Ultrasonic ความถี่สูง ยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่นระบบฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV จัดการไรฝุ่นได้ล้ำลึกกว่าที่เคย
กำจัดไรฝุ่นได้ถึง 99.9% จากการทดสอบการดูดไรฝุ่นบนผ้าที่มีไรฝุ่นมากถึง 5000 ตัว ฆ่าเชื้อโรค และกำจัดไรฝุ่นได้อย่างอยู่หมัด พร้อมระบบหยุดการทำงานอัตโนมัติเมื่อยกเครื่องดูดไรฝุ่นขึ้น นวัตกรรมถังเก็บฝุ่นแบบ Dual Tank (ถังคู่) แยกไรฝุ่น และฝุ่นออกจากไส้กรองได้ดีความจุถังเก็บฝุ่น 350 ml ใช้งานได้นาน หลายครั้ง ไม่เสียเวลาเทฝุ่นทิ้งบ่อยๆ
ช่องดูดฝุ่นกว้างถึง 23 cm ครอบคลุมพื้นที่ในการดูดที่มากกว่า ทำให้คุณทำความสะอาดได้เร็วขึ้น แปรงปัดฝุ่นรูปทรงตัว V ทรงเป็นเกลียวเพิ่มประสิทธิภาพในการปัดฝุ่นบนพื้นผิวผ้าให้ดียิ่งขึ้น มอเตอร์กำลังสูงขนาด 500W มีความทรงพลัง และทนทานสูง เสริมให้การดูดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบกำจัดความชื้นด้วยลมร้อน ไล่ความชื้นบนเตียง ป้องกันและทำลายไร้ฝุ่นที่ที่นอน
3.iSuper Anti-Mites Vacuum Cleaner M1
มากับน้องเล็กของ ที่มีมอเตอร์ทรงพลังถึง 350W สร้างแรงดูดได้สูงสุด 12000Pa ถึงไรฝุ่นอยู่ลึกก็ไม่ใช่ปัญหา ด้วยแรงตบ 72,000 ครั้ง / นาที ถังเก็บฝุ่นคู่เก็บฝุ่นได้เยอะ พร้อมไส้กรอง HEPA Filter ช่องดูดฝุ่นกว้างถึง 20 เซนติเมตร ทำความสะอาดไวมากขึ้น
ไฟ LED ฆ่าเชื้อโรค และจัดการไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบทำความร้อนถึง 60°C ไล่ความชื้น กำจัดไรฝุ่น หน้าจอ LED แสดงรายละเอียดได้ครบ และชัดเจนกว่าในที่มืด สามารถใช้งานได้ทั้งเตียงนอน, โซฟา และวัสดุต่างๆที่เป็นผ้า น้ำหนักตัวเครื่องเบาเพียง 1.4 กิโลกรัม ยกมือเดียวได้สบายๆ ตัวผลิตภัณฑ์สินค้ารับประกัน 1 ปี ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด โดยเป็นความเสียหายที่เกิดจากการผลิตและไม่รวมถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานที่ผิดประเภท
สรุป การเลือกซื้อเครื่องดูดไรฝุ่น ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น กำลังดูด ระบบกรอง มอเตอร์ ฟังก์ชันเสริม วัสดุ น้ำหนัก และเสียง เพื่อให้ได้เครื่องดูดไรฝุ่นที่ตรงกับความต้องการของคุณมากที่สุด