แชร์

หูฟัง Noise Cancelling คู่มือฉบับสมบูรณ์ รู้ลึกทุกเรื่องก่อนตัดสินใจซื้อ

อัพเดทล่าสุด: 9 ม.ค. 2025

ในยุคที่เต็มไปด้วยเสียงรบกวนรอบตัว หูฟัง Noise Cancelling ได้กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้เราดื่มด่ำกับเสียงเพลง พอดแคสต์ หรือการสนทนาได้อย่างเต็มที่ โดยปราศจากสิ่งรบกวนจากภายนอก บทความนี้จะเจาะลึกทุกแง่มุมของหูฟัง Noise Cancelling ตั้งแต่หลักการทำงาน ประเภท ข้อดี ข้อเสีย ไปจนถึงวิธีการเลือกซื้ออย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถเลือกหูฟังที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

หูฟัง Noise Cancelling คืออะไร?

หูฟัง Noise Cancelling คือหูฟังที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน ซึ่งมีสองประเภทหลักๆ ได้แก่:

Passive Noise Cancellation (PNC): เป็นการลดเสียงรบกวนทางกายภาพ โดยใช้วัสดุและโครงสร้างของหูฟัง เช่น ฟองน้ำหรือยางหุ้มหูฟัง เพื่อป้องกันเสียงจากภายนอกไม่ให้เข้ามาในหู วิธีนี้มีประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวนความถี่สูงได้ในระดับหนึ่ง

Active Noise Cancellation (ANC): เป็นการใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสร้างคลื่นเสียงที่มีเฟสตรงข้ามกับเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้เสียงรบกวนถูกหักล้างและลดลงอย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จะเน้นไปที่ Active Noise Cancellation (ANC) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูงกว่า

หลักการทำงานของ ANC:

หูฟัง ANC จะมีไมโครโฟน (มักมีมากกว่าหนึ่งตัว ทั้งภายในและภายนอกหูฟัง) คอยรับเสียงจากภายนอกและภายในหูฟัง จากนั้นวงจรประมวลผลภายในจะวิเคราะห์เสียงเหล่านั้นและสร้าง "คลื่นเสียงตรงข้าม" (anti-noise) ที่มีเฟสตรงกันข้ามกับเสียงรบกวน เมื่อคลื่นเสียงทั้งสองมาเจอกัน จะเกิดปรากฏการณ์ "Destructive Interference" หรือการหักล้างกัน ทำให้เสียงรบกวนลดลงหรือหายไป

ประเภทของ ANC:

Feedforward ANC: ใช้ไมโครโฟนภายนอกหูฟังเพื่อรับเสียงรบกวนก่อนที่เสียงนั้นจะเข้าไปในหู จากนั้นจึงสร้างคลื่นเสียงตรงข้ามเพื่อหักล้าง มักใช้ในการตัดเสียงรบกวนความถี่สูง เช่น เสียงพูดคุย

Feedback ANC: ใช้ไมโครโฟนภายในหูฟังเพื่อรับเสียงรบกวนที่เล็ดลอดเข้าไปในหูแล้ว จากนั้นจึงสร้างคลื่นเสียงตรงข้ามเพื่อหักล้าง มักใช้ในการตัดเสียงรบกวนความถี่ต่ำ เช่น เสียงเครื่องยนต์

Hybrid ANC: เป็นการรวมเอา Feedforward และ Feedback ANC เข้าด้วยกัน เพื่อประสิทธิภาพในการตัดเสียงรบกวนที่ดียิ่งขึ้น ครอบคลุมเสียงรบกวนได้หลากหลายความถี่ และมักให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ข้อดีของหูฟัง Noise Cancelling:

ลดเสียงรบกวนจากภายนอก: ช่วยให้ฟังเพลง พอดแคสต์ หรือเสียงอื่นๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง เช่น บนเครื่องบิน รถโดยสาร หรือในร้านกาแฟ ทำให้ไม่ต้องเพิ่มระดับเสียงจนเป็นอันตรายต่อการได้ยิน

เพิ่มสมาธิ: ช่วยลดสิ่งรบกวนสมาธิ ทำให้มีสมาธิกับการทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมอื่นๆ ได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาธิในที่สาธารณะ

ลดความเมื่อยล้า: การฟังเสียงในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังเป็นเวลานาน อาจทำให้เกิดความเมื่อยล้า ANC ช่วยลดความจำเป็นในการเพิ่มระดับเสียง ทำให้ลดความเมื่อยล้าของหูได้

ประสบการณ์การฟังที่ดีขึ้น: ช่วยให้ได้ยินรายละเอียดของเสียงเพลงหรือเสียงต่างๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะรายละเอียดของเสียงดนตรีที่มีความถี่ต่างๆ กัน

ข้อเสียของหูฟัง Noise Cancelling:

อาจมีเสียงรบกวนสีขาว (white noise) เล็กน้อย: หูฟัง ANC บางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นเก่าหรือราคาประหยัด อาจมีเสียงรบกวนสีขาวเบาๆ ซึ่งเกิดจากกระบวนการสร้างคลื่นเสียงตรงข้าม อย่างไรก็ตาม หูฟังรุ่นใหม่ๆ ได้พัฒนาให้ลดปัญหานี้ลงไปมาก

อาจทำให้รู้สึกอับหรือแรงดันในหู: ผู้ใช้บางรายอาจรู้สึกอับหรือมีแรงดันในหูเมื่อใช้หูฟัง ANC ซึ่งมักเกิดขึ้นกับหูฟัง ANC รุ่นเก่าๆ หรือรุ่นที่มีคุณภาพไม่ดี หูฟังรุ่นใหม่ๆ มักมีระบบที่ช่วยลดแรงดันในหู

ใช้พลังงานแบตเตอรี่: การทำงานของ ANC ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่หมดเร็วกว่าหูฟังทั่วไป ควรพิจารณาอายุการใช้งานแบตเตอรี่ก่อนเลือกซื้อ

ราคาแพงกว่า: หูฟังที่มี ANC มักมีราคาสูงกว่าหูฟังทั่วไปที่ไม่มี ANC แต่ราคาก็มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทคโนโลยีพัฒนาขึ้น

วิธีการเลือกซื้อหูฟัง Noise Cancelling:

ประเภทของหูฟัง: พิจารณาว่าต้องการหูฟังแบบไหน เช่น หูฟังครอบหู (over-ear) หูฟังแนบหู (on-ear) หรือหูฟังอินเอียร์ (in-ear) แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน เช่น หูฟังครอบหูมักให้การตัดเสียงรบกวนที่ดีที่สุด แต่มีขนาดใหญ่ หูฟังอินเอียร์พกพาสะดวก แต่การตัดเสียงรบกวนอาจสู้หูฟังครอบหูไม่ได้

ระดับการตัดเสียงรบกวน: หูฟังแต่ละรุ่นมีระดับการตัดเสียงรบกวนที่แตกต่างกัน ควรเลือกระดับที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น หากใช้บนเครื่องบิน ควรเลือกระดับการตัดเสียงรบกวนที่สูง

คุณภาพเสียง: นอกจากANCแล้ว คุณภาพเสียงก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกหูฟังที่ให้เสียงที่ดี มีรายละเอียดเสียงครบถ้วน มีความสมดุลของเสียง

ความสบายในการสวมใส่: ควรเลือกหูฟังที่สวมใส่สบาย ไม่ทำให้เจ็บหูเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน โดยเฉพาะหูฟังครอบหู ควรเลือกที่มีฟองน้ำนุ่มและขนาดพอดีกับหู

ฟังก์ชันอื่นๆ: พิจารณาฟังก์ชันอื่นๆ เช่น โหมดฟังเสียงภายนอก (transparency mode) การเชื่อมต่อไร้สาย (Bluetooth) Codec เสียงที่รองรับ (เช่น aptX, LDAC) ไมโครโฟนสำหรับสนทนา หรือแอปพลิเคชันสำหรับปรับแต่งเสียง

งบประมาณ: กำหนดงบประมาณและเลือกหูฟังที่เหมาะสมกับงบประมาณ

รีวิวจากผู้ใช้งานและจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริงและจากเว็บไซต์หรือสื่อที่น่าเชื่อถือ เพื่อประกอบการตัดสินใจ

คำแนะนำเพิ่มเติม:

ทดลองใช้งานก่อนซื้อ: หากเป็นไปได้ ควรทดลองใช้งานหูฟัง Noise Cancelling ก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อดูว่าระดับการตัดเสียงรบกวนและความสบายในการสวมใส่เหมาะสมกับคุณหรือไม่

อัปเดตเฟิร์มแวร์: ตรวจสอบและอัปเดตเฟิร์มแวร์ของหูฟังอยู่เสมอ เพื่อให้ได้รับประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด และแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ

ศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: ศึกษาข้อมูลและรีวิวจากเว็บไซต์หรือสื่อเทคโนโลยีที่น่าเชื่อถือ เช่น CNET, Rtings.com, Whathifi.com เพื่อประกอบการตัดสินใจ

สรุป: หูฟัง Noise Cancelling เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการเพลิดเพลินกับเสียงเพลงหรือเสียงต่างๆ โดยไม่ต้องถูกรบกวนจากเสียงภายนอก อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาข้อดี ข้อเสีย และปัจจัยต่างๆ อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ เพื่อให้ได้หูฟังที่ตรงกับความต้องการและการใช้งานของคุณ


บทความที่เกี่ยวข้อง
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy