สงสัยไหมฝุ่นในบ้านมาจากไหน บทความนี้มีคำตอบพร้อมวิธีแก้ไข
หลายคนอาจจะสงสัยนะครับว่าฝุ่นในบ้านนั้นเข้ามาได้ยังไงเราก็ยังไม่ได้เอาอะไรที่มีฝุ่นเข้ามาเลย สังเกตง่ายๆๆ นะครับฝุ่นบนหัวเตียงนอน ซึ่งตรงนั้นเราแทบไม่ได้เข้าใกล้เลยวันนี้เราจะมาไขความกระจ่างกันว่าฝุ่นมาจากไหนแล้วเข้ามาได้ยังไงถึงห้องนอนเรา
ฝุ่นที่มาโดยไม่ตั้งใจ
เราอาจจะเปิดหน้าต่างทิ้งไว้แล้วฝุ่นนั้นก็อาจจะมากับแรงลมเลยมาเกาะตามผนัง สิ่งของที่อยู่ในบ้าน หรืออาจจะเป็นของที่ติดตัวมาจากข้างนอกก็เป็นได้ บ้านแต่ละหลังสัดส่วนฝุ่นก็ไม่เท่ากันอย่างที่บอกไปถ้าบ้านไหนเปิดหน้าต่างบ่อยๆๆ ก็จะมีฝุ่นเข้ามามากกว่า
ส่วนประกอบของฝุ่น
เศษดินหรือเศษหินที่อยู่ตามท้องถนนหรือก็ไม่ก็ทางเดินเท้าที่เราใช้ในชีวิตประจำวันอยู่ทุกวันหรือเศษของยางรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ รวมไปถึงเศษอาหารที่อาจจะตกมาในเสื้อเราโดยไม่รู้ตัว หรือไม่ก็ก็มาจากเกสรดอกไม้ ใยจากเสื้อผ้า และที่คุณไม่อยากจะเจอเลยก็พวกเศษแขนขาแมลง ผม ขน หรือเศษหนังที่ตายแล้วที่ลอกออกมาซึ่งหนังนี้ก็เป็นได้ทุกคนไม่ว่าจะคนในบ้านหรือสัตว์เลี้ยง สรุป ฝุ่นมันคือศูนย์รวมของขนาดเล็กและเศษผงที่มารวมตัวกันจากหลายที่มา มาถึงฝุ่นที่น่ากลัวที่สุดอย่างสารเคมีเพราะเจ้าฝุ่นนี้มีความสามารถในการเก็บสารเคมีต่างๆ สูงมาก
ต้องเข้าใจก่อนว่าอุปกรณ์ของในบ้านที่เราใช้กันอยู่ต้องมีสารเคมีติดมาอยู่แล้ว เช่นสารเคมีในพื้นไวนิล หรือจะเป็นพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าก็จะมีสิ่งที่เรียกว่าสารหน่วงการติดไฟอยู่ เป็นสารที่เอาไว้ยับยั้งเหลือป้องกันการติดไฟซึ่งสารเคมีพวกนี้มันจะระเหยออกมาแล้วฟุ้งไปในอากาศจับตัวกับฝุ่นในบ้านได้อย่างง่ายดาย ซึ่งบางทีฝุ่นเก็บสารพวกนี้ได้เป็นหลายปีเลย และไอ้เจ้าสารหน่วงการติดไฟเนี่ยแหละครับที่จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นทีวี คอมพิวเตอร์ ก็จะมีการระเหยของสารนี้ออกมา ตั้งแต่เรื่องระบบสืบพันธุ์ ระบบประสาทไปถึงเรื่องการผลิตฮอโมนไปจนถึงการเกิดมะเร็ง
สารเคมีในฝุ่นมีที่มาจากหลายแห่งไม่ว่าจะเป็นน้ำหอม เคมีที่ผสมในพลาสติก ในบุหรี่ แต่จะบอกไว้ก่อนนะครับว่านักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าการที่ฝุ่นเก็บสารเคมี ทำให้มีอันตรายต่อมนุษย์หรือเปล่า ต้องมีการวิจัยมากกว่านี้ เห็นไหมล่ะครับว่าฝุ่นนั้นมีส่วนประกอบอันตรายต่อชีวิตเราเยอะขนาดไหนถึงจะไม่มีการวิจัยออกมาว่าเป็นอันตรายเราก็ควรปัดฝุ่น ดูดฝุ่นหรือไม่ก็ควรเปิดกรองอากาศ
วันนี้เราเลยจะมาแนะนำเครื่องดูดฝุ่นและไรฝุ่นที่ควรจะมีติดบ้านไว้
1.เครื่องดูดฝุ่น iSuper Vacuum Cleaner
ตัวแรกที่เราอยากจะแนะนำเพราะเป็นตัวที่3-in-1 Pro ที่สามารถ ดูดฝุ่น ถูพื้น และดูด-ถูพร้อมกัน หัวแปรง และหัวดูดฝุ่นเยอะถึง 17 ชิ้น ใช้งานได้ครบทั่วทั้งบ้านมีแรงดูดทรงพลัง 17000Pa ฝุ่นจะเล็ก หรือใหญ่แค่ไหนก็เอาอยู่ ทำความสะอาดได้หมดจดด้วยพลังมอเตอร์ 600W ประหยัดไฟมากกว่า ควบคุมระบบการไหลของน้ำได้ดั่งใจง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส สามารถผสมน้ำยาทำความสะอาดไปได้
สามารถเปลี่ยนหัวกำจัดไรฝุ่นได้ง่าย พร้อมประสิทธิภาพดูไรฝุ่นที่ยอดเยี่ยม ถังเก็บฝุ่นใหญ่ เก็บฝุ่นได้เยอะถึง 500 ml ไม่เสียเวลาเททิ้งบ่อยๆ ถังเก็บน้ำจุได้ 180 ml ไม่ต้องเสียเวลาเติมบ่อย ถูพื้นได้ทั่วทั้งบ้าน มาพร้อม ไส้กรองฝุ่น HEPA Filter ฝุ่นจะเล็ก จะใหญ่ ก็เอาอยู่ ไส้กรอง สามารถล้างทำความสะอาด ให้เหมือนใหม่ได้ สายไฟยาวถึง 5 m ครอบคลุมทุกพื้นที่ เหมาะสำหรับบ้านที่มีช่องให้เสียบปลั๊กไฟน้อย ทั้งหมดนี้ในราคา 1199 บาทเท่านั้น
2.เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย iSuper Cordless Vacuum Cleaner VC1
ตัวนี้เหมาะบ้านที่มีหลายห้องเพราะเป็นแบบไร้สายให้แรงดูดที่มากสุดถึง 25000Pa เร็ว แรง ดูดฝุ่นได้หมดจด สามารถปรับแรงดูดได้ถึง 2 ระดับ (25000Pa / 11000Pa) แบตเตอรี่ 13200mAh ใช้งานได้นานถึง 40 นาที ถังเก็บฝุ่นใหญ่จุได้ 1.2L เททิ้งง่ายเพียงคลิกเดียวหมดปัญหาฝุ่นฟุ้งกระจาย หัวดูดฝุ่นหลักมีไฟ LED อัจฉริยะ แม้มุมมืดก็ไม่หวั่น น้ำหนักเบา จับกระชับ ถนัดมือ เอาใจคนอยู่คอนโด หรือหอพัก หัวดูดฝุ่นหลักปรับซ้าย-ขวา 180° ขึ้น-ลง 90° ให้คุณทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่ พร้อมหัวดูดฝุ่นอีก 2 รูปแบบทั้งหัวดูดปากแบน และหัวดูดฝุ่นแบบ 2 in 1 ทำความสะอาดได้ทุกซอกทุกมุม แม้พื้นที่เข้าถึงยาก ดูดได้ทั้งโซฟา คีย์บอร์ด และซอกหน้าต่าง
เสียงการทำงานเบาสุด 78dB ใช้งานได้ไม่รบกวนคนรอบข้าง สามารถใช้งานได้ทั้งในบ้าน และในรถยนต์ วัสดุพรีเมียม ทนทาน ใช้งานได้นาน ขนาดพอดี จัดเก็บง่าย ไม่เปลืองพื้นที่ใช้งาน ทั้งหมดในราคา 2699 บาทเท่านั้น พร้อมประกัน 1ปี
3.เครื่องดูดไรฝุ่น iSuper Anti-Mites Vacuum Cleaner M1
มาถึงเครื่องดูดไรฝุ่นกันบ้างเป็นเครื่องที่เราก็อยากจะแนะนำ มอเตอร์ทรงพลังถึง 350W สร้างแรงดูดได้สูงสุด 12000Pa ถึงไรฝุ่นอยู่ลึกก็ไม่ใช่ปัญหา ด้วยแรงตบ 72,000 ครั้ง / นาที ถังเก็บฝุ่นคู่เก็บฝุ่นได้เยอะ พร้อมไส้กรอง HEPA Filter แยกโซนฝุ่นขนาดใหญ่ กับฝุ่นขนาดเล็ก ออกจากกัน ถังเก็บฝุ่นมีความจุสูงสุดถึง 300 มิลลิลิตร ช่องดูดฝุ่นกว้างถึง 20 เซนติเมตร ทำความสะอาดไวมากขึ้น ไฟ LED ฆ่าเชื้อโรค และจัดการไรฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบทำความร้อนถึง 60°C ไล่ความชื้น กำจัดไรฝุ่น หน้าจอ LED แสดงรายละเอียดได้ครบ และชัดเจนกว่าในที่มืด
สามารถใช้งานได้ทั้งเตียงนอน, โซฟา และวัสดุต่างๆ ที่เป็นผ้า ทำความสะอาดได้ง่าย พร้อมขั้นตอนการประกอบที่น้อยกว่า ถังเก็บฝุ่นสามารถแยกชั้น เพื่อการทำความสะอาดที่ง่าย น้ำหนักตัวเครื่องเบาเพียง 1.4 กิโลกรัม ยกมือเดียวได้สบายๆ ในราคา 1799 บาท เท่านั้น
4.เครื่องดูดไรฝุ่น iSuper H2 Max
เป็นเครื่องดูดไรฝุ่น สามารถตบฝุ่นได้ถึง 36,000 ครั้ง/นาที เทคโนโลยี Negative ions ช่วยดักจับฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศมาพร้อม Ultrasonic เทคโนโลยีที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของไรฝุ่น ฆ่าเชื้อโรคด้วยแสง UV จัดการไรฝุ่นได้ล้ำลึกกว่าที่เคย ถังเก็บฝุ่นแบบ Dual Tank แยกไรฝุ่น และฝุ่นออกจากไส้กรอง ระบบไล่ความชื้นด้วยลมร้อนถึง 60°C ช่วยกำจัดไรฝุ่นและแบคทีเรีย ผสมผสานเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ที่สามารถกำจัดไรฝุ่นได้ถึง 99.9% ใหม่ล่าสุดกับการใส่เม็ดกลิ่นอโรม่า ที่จะสร้างความหอมและลดกลิ่นอับชื้น
หน้าจอการแสดงผล LED แสดงปริมาณฝุ่น และสถานะการทำงาน ช่องดูดฝุ่นกว้างถึง 23 cm ดูดได้ดีขึ้น และใช้เวลาน้อยกว่า แปรงลูกกลิ้งแบบ V shape ปัดฝุ่นได้ดีขึ้น และไม่ทำร้ายเส้นใยผ้า ถังเก็บฝุ่นจุได้ถึง 300 ml หมดปัญหาเรื่องการเทฝุ่นทิ้งบ่อยๆ มอเตอร์ขนาด 500W ปรับแรงดูดมาให้สูงถึง 16000Pa ดูดไรฝุ่นที่ฝังแน่น หรือที่ติดตามเส้นใยผ้าได้เป็นอย่างดี สายไฟยาว 5 เมตร เหมาะสำหรับบ้านที่มีช่องให้เสียบปลั๊กไฟน้อย หยุดการทำงานทันทีเมื่อยกตัวเครื่องดูดไรฝุ่นขึ้น ในราคา 3599 บาทเท่านั้น
สรุป ฝุ่นนั้นมาได้ทุกวันถึงแม้เราจะไม่ได้ออกนอกบ้านเพราะแค่ในบ้านก็มีสิ่งที่เป็นตัวที่ทำให้เกิดฝุ่นอยู่เยอะมากอยู่แล้ว เลยไม่ต้องออกไปข้างนอกก็จะมีฝุ่นเกิดขึ้นในบ้านได้อย่างแน่นอน